ค่า R กระเบื้อง คืออะไร เคล็ดลับการเลือกกระเบื้องที่ต้องรู้

ทุกวันนี้ในชีวิตประจำวันของเรามีเรื่องที่ต้องให้ระมัดระวังอยู่เสมอ ไม่ว่าจะจากสถานที่นอกบ้าน หรือแม้ภายในบ้านก็ตาม ซึ่งบางสาเหตุที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุโดยที่เราไม่ได้ทันระมัดระวังและเป็นเรื่องใกล้ตัวนั่นก็คือ การลื่นล้มทั้ง ๆ ที่เราก็ทำความสะอาดพื้นอย่างดีแล้ว สาเหตุที่เราลื่นอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับการทำความสะอาดพื้นดีหรือไม่ดี แต่อาจจะมาจากค่า R กระเบื้อง ที่ก่อนซื้อกระเบื้องปูพื้นเราอาจจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมพื้นกระเบื้องลื่นนั่นเอง

เกริ่นนำการดูค่า R กันลื่นกระเบื้อง

เวลาที่เราจะเลือกซื้อกระเบื้อง ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้องแกรนิตโต้ กระเบื้องลายหินอ่อน หรืออะไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว หลาย ๆ คนจะเลือกซื้อจากลวดลาย ความสวยงาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่เรามองข้ามมันไป นั่นก็คือ การเลือกค่า R กันลื่น ซึ่งเหตุผลนี้มีความสำคัญมาก สมมติว่าเวลาไหนเกิดมีฝนตก หรือเวลาที่เข้าห้องน้ำแล้วเจอกับพื้นที่กำลังเปียก ถ้าค่า R กระเบื้องไม่ดี อาจจะทำให้เราลื่นล้ม หรือเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ ตามมาได้

อะไรคือค่า R กันลื่น (Slip Resistance)?

ค่า R กระเบื้องกันลื่น คือ ค่าที่ได้จากการทดสอบ Ramp Test โดยการปูกระเบื้องบนทางลาดชันในองศาที่แตกต่างกันออกไป เพื่อที่จะทดสอบประสิทธิภาพกันลื่นของพื้นผิวบนกระเบื้องปูพื้น โดยระหว่างทดสอบ ถ้าองศาความลาดชันเพิ่มขึ้นระดับของค่า R กระเบื้องก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยจะมีการแบ่งระดับค่า R ออกไปตามระดับองศาต่าง ๆ

ระดับค่า R ของกระเบื้องแต่ละแบบ

กระเบื้องแต่ละแบบจะมีระดับค่า R กระเบื้องแยกตามประเภทการใช้งานที่ต่างกันออกไป จะเริ่มจาก R9 ไปจนถึง R13 โดย R9 จะมีประสิทธิภาพในการกันลื่นน้อยที่สุด และ R13 จะสามารถกันความลื่นได้ดีที่สุด ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติ และการใช้งานที่เหมาะกับการนำไปติดตั้งแต่ละสถานที่ ที่ไม่เหมือนกัน

คุณสมบัติกระเบื้องค่า R แต่ละแบบเป็นอย่างไร?

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ากระเบื้องแต่ละแบบ เมื่อมีค่า R ที่ต่างกัน แน่นอนว่าคุณสมบัติก็จะแตกต่างกัน แล้วแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

- กระเบื้อง R9 เป็นกระเบื้องที่มีลักษณะผิวหน้าเรียบชนิดผิวด้าน ความลาดชันในการปูพื้นอยู่ที่ 3-10 องศา และเนื่องจากกระเบื้องประเภทนี้มีผิวเรียบด้าน จึงทำให้ในเรื่องการทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ไม่ยากลำบาก

- กระเบื้อง R10 กระเบื้องประเภทนี้มีผิวหน้าเรียบเหมือนกัน แต่ผิวสัมผัสจะมีความหยาบกว่ากระเบื้อง R9 ระดับความลาดชันจะอยู่ที่ 10-19 องศา แต่ถึงแม้กระเบื้อง R10 จะมีผิวสัมผัสที่หยาบ แต่เวลาเดินก็ไม่ได้ทำให้เท้าของเรารู้สึกระคายเคืองถึงแม้จะเดินด้วยเท้าเปล่าก็ตาม ในเรื่องของการทำความสะอาดก็ยังสะดวกเหมือนการทำกระเบื้องทั่วไป

- กระเบื้อง R11 แน่นอนว่ากระเบื้องประเภทนี้จะมีผิวสัมผัสที่หยาบกว่าทั้งกระเบื้อง R9 และกระเบื้อง R10 ซึ่งเป็นความหยาบที่เสมือนมีเม็ดทรายเล็ก ๆ อยู่บนพื้นผิว แต่ยังคงเป็นผิวหน้าที่เรียบอยู่ แต่ด้วยผิวสัมผัสที่หยาบจึงทำให้ไม่เหมาะกับการเดินเท้าเปล่าสักเท่าไหร่ มีระดับความลาดชันที่ 19-27 องศา และในเรื่องของการทำความสะอาด ด้วยความที่มีพื้นผิวหยาบจึงก่อให้เกิดการสะสมฝุ่น สิ่งสกปรก ส่งผลให้ต้องทำความสะอาดถี่ขึ้น ถ้าเกิดว่าไม่ทำความสะอาดปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้สิ่งสกปรกสะสม และปิดบังพื้นผิวหน้ากระเบื้อง ซึ่งอาจจะทำให้มีโอกาสลื่นได้

- กระเบื้อง R12 เป็นกระเบื้องที่มีพื้นผิวที่หยาบมาก จัดว่าเป็นระดับค่า R กระเบื้อง ที่มีประสิทธิภาพในการกันลื่นได้สูง มีค่าความลาดชันอยู่ที่ 27-35 องศา มีความฝืดเวลาเดิน ทำให้โอกาสที่จะลื่นนั้นน้อยมาก

- กระเบื้อง R13 กระเบื้องชนิดนี้เป็นกระเบื้องที่มีพื้นผิวที่หยาบมากที่สุด ไม่มีความมันวาวเลย มีค่าความลาดชันมากกว่า 35 องศาขึ้นไป แต่เราจะไม่ค่อยเห็นกระเบื้องปูพื้นชนิดนี้วางขายสักเท่าไหร่

‍การใช้งานกระเบื้องค่า R แต่ละแบบ

เนื่องจากความเรียบหยาบของพื้นผิวกระเบื้องที่ไม่เหมือนกัน การเลือกที่จะนำมาใช้งานก็ย่อมมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไปด้วยขึ้นอยู่กับสถานที่ บริเวณนั้น ๆ โดยจะทำการแบ่งวัตถุประสงค์การใช้งานของกระเบื้องแต่ละประเภทได้ดังนี้

- กระเบื้อง R9 เหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไปที่เน้นไปในพื้นที่ ที่แห้ง ไม่ว่าจะเป็นในห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ห้องนอน ห้องรับแขก หรือใครจะนำไปติดตั้งบริเวณโถงทางเดิน บันได ก็ยังได้ แถมยังมีความสวยงามอีกด้วย

- กระเบื้อง R10 เหมาะกับการใช้ในบริเวณที่จะมีการเปียกน้ำบ้าง ส่วนใหญ่มักจะนำไปติดตั้งบริเวณนอกบ้าน อย่างเช่น ลานจอดรถ ทางเดิน หรือบริเวณระเบียง แต่นอกจากนี้ก็ยังนำมาติดตั้งภายในบ้านได้ด้วยเหมือนกัน โดยห้องที่เหมาะจะเป็นห้องน้ำ

- กระเบื้อง R11 เนื่องจากกระเบื้องชนิดนี้เริ่มจะมีความหยาบขึ้นมาพอประมาณแล้ว จึงเหมาะกับพื้นที่ ๆ มักจะเปียกน้ำอยู่บ่อยครั้ง หรืออาจจะเป็นพื้นที่ ที่จำเป็นต้องใช้งานในขณะที่เปียก และพื้นที่ลาดเอียง ส่วนใหญ่จะนิยมนำมาติดตั้งบริเวณลานซักล้าง ลานจอดรถ หรือบริเวณรอบ ๆ บ้านที่ต้องเสี่ยงโดนน้ำบ่อย ๆ เป็นต้น

- กระเบื้อง R12 กระเบื้องชนิดนี้ถ้าจะนำมาติดตั้งภายใน ส่วนใหญ่ควรจะเลือกพื้นที่ ๆ มีคราบ

ไขมัน หรือความมันมาเกาะอยู่บ่อย ๆ นั่นก็คงจะหนีไม่พ้นห้องครัว และถ้าต้องการจะติดตั้งภายนอกก็ได้หลายที่ เช่น พื้นที่รอบ ๆ สระว่ายน้ำ ลานอเนกประสงค์กลางแจ้ง หรือพื้นที่ ๆ มีความลาดชันค่อนข้างมาก หรือใครจะนำไปติดตั้งบริเวณพื้นล๊อคเกอร์รูมของฟิตเนสก็ได้ เพราะบริเวณนี้จะมีความเปียกชื้นอยู่บ่อย ๆ

- กระเบื้อง R13 เพราะว่ากระเบื้องชนิดนี้มีความหยาบของพื้นผิวมากที่สุด การนำไปใช้งานจึงควรนำไปใช้ในพื้นที่สาธารณะ อย่างเช่นพื้นที่ภายนอกอาคารพลาซ่าต่าง ๆ รวมไปถึงพื้นที่บริเวณรอบสระว่ายน้ำก็ยังสามารถนำมาติดตั้งได้ด้วย

‍ทำไมต้องเลือกกระเบื้องปูพื้นของ Adecor?

กระเบื้องของ Adecor ทุกประภทนั้นได้มาตรฐาน และยังมีค่า R ให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เริ่มต้น และสูงสุดที่ R12 สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสบกับบ้าน หรืออาคารของคุณ รับรองว่าสินค้าที่คุณเลือกซื้อไป จะต้องถูกใจและยังได้คุณภาพอีกแน่นอน

สนใจดูผลิตภัณฑ์กระเบื้องอื่นๆ ของ Adecor ทำอย่างไร?

Adecor เรามีผลิตภัณฑ์กระเบื้องอื่น ๆ ให้คุณได้เลือกอีกมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้องยาง กระเบื้องลายไม้ และกระเบื้องอีกหลากหลายประเภท ท่านสามารถรับชม และเลือกซื้อสินค้าได้ทาง https://www.adecor.co.th/  ตลอดเวลา

เราพร้อมบริการแบบ One stop service ศูนย์รวมกระเบื้องทุกแบบ ทุกลาย พร้อมให้คำปรึกษา และติดต่อช่างติดตั้ง ที่เดียวครบ จบเรื่องงานกระเบื้อง