กระเบื้องปูพื้นไม่ลื่น เลือกอย่างไรให้ทั้งปลอดภัย และเหมาะกับแต่ละห้อง

การเลือกกระเบื้องปูพื้นกันลื่นสำคัญขนาดไหน?

การเลือกกระเบื้องปูพื้นให้เหมาะสมกับบ้าน หรือที่พักอาศัย นอกจากจะเลือกในเรื่องของความสวยงามแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรจะละเลย ควรเอาใจใส่ในการเลือกกระเบื้องด้วยก็คือ การดูความลื่นของพื้นกระเบื้องแต่ละประเภทที่คุณจะเลือกซื้อ เพราะว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมากในชีวิต และยิ่งในบริเวณห้องน้ำ หรือบริเวณพื้นที่ต้องโดนน้ำบ่อย ๆ ถ้าเราจะเลือกกระเบื้องมาเพราะดูแค่ความสวยงาม คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่นอน

และได้มีสถิติที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ได้บอกมาว่า อุบัติเหตุที่เกิดจากการลื่น หรือหกล้ม ของผู้สูงอายุ มีเฉลี่ยถึง 3 คน ต่อวันเลยทีเดียว ดังนั้นการเลือกกระเบื้องปูพื้นไม่ลื่นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมากเรื่องนึงเลยทีเดียว

จะซื้อกระเบื้องปูพื้นแบบไม่ลื่นต้องดูอะไรบ้าง?

การที่จะสร้างบ้านขึ้นมาหนึ่งหลังคงจะใช้ค่าใช้จ่ายไม่น้อย และคุณก็คงอยากให้บ้านหลังนั้นออกมาสวยที่สุด และมีความปลอดภัยสำหรับการใช้ชีวิตมากที่สุด การเลือกวัตถุดิบต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้สร้าง หรือตกแต่งบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญหนึ่งในนั้นก็คือ การเลือกกระเบื้องปูพื้น ซึ่งการเลือกกระเบื้องมีเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรรู้ก็คือ เราไม่ควรเลือกกระเบื้องสำหรับปูผนังมาปูพื้น เพราะกระเบื้องสำหรับปูผนังไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการที่จะต้องรับน้ำหนักมาก ๆ และเมื่อใช้งานไปสักพักอาจจะทำให้กระเบื้องแตกหักได้

และเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอีกเรื่องหนึ่งในการเลือกกระเบื้องปูพื้น นั่นก็คือ การเลือกกระเบื้องปูพื้นไม่ลื่น คุณอาจจะซื้อกระเบื้องมาแล้วต้องเสี่ยงที่จะลื่นล้มบ่อย ๆ เพราะไม่ได้ดูค่า r กระเบื้องก่อน เพราะอย่างนั้นถ้าจะเลือกกระเบื้องทั้งทีดูความสวยงามแล้ว ควรดูประสิทธิภาพในการกันลื่นของกระเบื้องนั้น ๆ ด้วย

เลือกกระเบื้องกันลื่นอย่างไรให้เหมาะกับแต่ละห้อง?

การที่จะเลือกกระเบื้องปูพื้นไม่ลื่นมาให้เหมาะสมกับแต่ละห้อง ถ้าเราได้ซื้อมาแล้วแต่กระเบื้องอันนั้นมันไม่สามารถช่วยในเรื่องกันความลื่นได้เหมาะสมกับห้องนั้น ๆ มากสักเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายที่เสียไปก็คงจะไม่ใช่น้อย ๆ เพราะในห้องหนึ่งห้อง ก็คงจะใช้กระเบื้องหลายแผ่นมาปูพื้นแน่นอน แล้วเราจะมีวิธีเลือกกระเบื้องกันลื่นแบบไหน ให้เหมาะกับแต่ละห้องบ้าง

1. กระเบื้องกันลื่นจะมีค่า r กระเบื้องบ่งบอกถึงความสามารถในการกันลื่นได้มากน้อยแตกต่างกันออกไป และแต่ละแบบก็จะนำมาใช้งานกับสถานที่ ที่ไม่เหมือนกันตามความเหมาะสม

- R9 จะเป็นระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับการนำมาปูพื้นที่ทั่วไปภายในบ้าน

- R10 จะเป็นกระเบื้องที่มีพื้นผิวเริ่มมีความหยาบขึ้นมา เหมาะสำหรับนำมาปูในห้องน้ำ

- R11 กระเบื้องที่เริ่มมีความหยาบเกินกว่าจะนำมาปูในบ้าน เหมาะกับการปูพื้นนอกบ้านมากกว่า

- R12 และ R13 กระเบื้อง 2 ประเภทนี้จะเป็นกระเบื้องที่มีความหยาบค่อนข้างสูง จะนำไปเหมาะกับพื้นที่ที่เป็นทางลาดมากที่สุด

2. กระเบื้องปูพื้นจะมีผิวสัมผัสให้เลือกมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ผิวด้าน, ผิวเรียบ, ผิวมัน, ผิวหยาบ และผิวกึ่งมันกึ่งหยาบ ซึ่งแต่ละผิวสัมผัสจะเป็นตัวช่วยในการกันลื่นได้อกีทางนอกจากการดูค่า r กระเบื้อง แต่กระเบื้องที่มีความหยาบเยอะ ๆ จะมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือตรงการทำความสะอาด เพราะกระเบื้องประเภทนี้จะทำความสะอาดค่อนข้างยาก

3. การปูกระเบื้องในแต่ละห้องควรจะต้องวัดขนาดกระเบื้องให้สัมพันธ์กับขนาดของแต่ละห้อง ถ้าวัดขนาดมาไม่ดี เมื่อนำไปปูจริง ๆ ลวดลายของกะเบื้องที่เลือกมาอาจจะถูกตัดออกได้ ดังนั้นขอแนะนำว่า เมื่อวัดขนาดพื้นที่มาแล้ว ตอนเลือกซื้อกระเบื้องควรจะซื้อขนาดมาเผื่อไว้อีก 5% เพื่อกันการเกิดปัญหาระหว่างติดตั้ง

ประเภทกระเบื้องค่า R ที่นิยมใช้

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่ากระเบื้องแต่ละประเภทจะมีค่า r ที่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะนำไปใช้บริเวณไหนของบ้าน หรืออาคาร ซึ่งค่า r ที่นิยมใช้ก็จะขึ้นอยู่กับพื้นที่แต่ละส่วนว่าเหมาะกับกระเบื้องแบบไหนมากกว่า อย่างเช่น ถ้าต้องการจะปูพื้นในห้องน้ำ ค่า r ที่จะนิยมใช้กันก็คือ กระเบื้องที่มีค่า r อยู่ที่ 10

หรือใครที่จะนำกระเบื้องไปปูบริเวณในบ้านห้องทั่วไป อย่างเช่น ห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ซึ่งห้องแบบนี้ก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้กระเบื้องที่มีค่า r สูงมากเท่าไหร่ ดังนั้นค่า r ที่จะเป็นที่นิยมจะอยู่ที่ 9

ลักษณะพื้นกระเบื้องไม่ลื่นที่แนะนำ

การที่จะเลือกกระเบื้องปูพื้นไม่ลื่นควรจะเลือกกระเบื้องที่มีลักษณะแบบไหน เลือกยังไงให้เหมาะสมกับการนำมาปูในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากกระเบื้องกันลื่นจะมีพื้นผิวที่หยาบกว่ากระเบื้องปกติ ถ้าจะนำมาปูในห้องทั่วไปก็อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองเท้าได้

ดังนั้นลักษณะของกระเบื้องที่แนะนำจะขึ้นอยู่กับความหยาบของพื้นผิวกระเบื้อง ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละห้อง แต่ละบริเวณ และยิ่งถ้าบริเวณไหนที่ต้องมีโอกาสจะโดนน้ำ หรืออาจจะโดนน้ำมันบ่อย ๆ ก็ตาม ลักษณะของพื้นกระเบื้องกันลื่นก็อาจจะต้องเลือกกระเบื้องที่มีประสิทธิภาพในการกันลื่นสูงกว่าปกติ

ข้อดีของกระเบื้องกันลื่นแต่ละอย่าง

กระเบื้องกันลื่นมีให้เลือกหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีข้อดีและคุณสมบัติที่ต่างกัน จึงจะมาบอกถึงคุณสมบัติของกระเบื้องแต่ละแบบ พร้อมกับข้อดีของกระเบื้องนั้น ๆ

- กระเบื้องดินเผา เป็นกระเบื้องที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ซึมซับน้ำ จึงทำให้น้ำซึมผ่านได้ยาก และนอกจากนี้ยังมีราคาที่ไม่แพงอีกด้วย จึงเป็นกระเบื้องที่นิยมมาใช้ในห้องน้ำ แต่ถ้าหากในบริเวณนั้นมีการระบายน้ำที่ไม่ดีเท่าที่ควร อาจจะทำให้เกิดคราบตะไคร่ และถ้าไม่ทำความสะอาดก็อาจจะทำให้ลื่นล้มได้

- กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นกระเบื้องที่มีเนื้อแข็งแกร่ง ทนทาน รับน้ำหนักได้มาก มีความทนทานต่อการขัดสีได้ดี มีการดูดซึมน้ำที่น้อย จึงไม่ทำให้ลื่น และยังทำความสะอาดง่าย และกระเบื้องชนิดนี้มีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย จึงได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

- กระเบื้องกรวด กระเบื้องชนิดนี้เป็นกระเบื้องที่ออกแบบมาให้มีผิวสัมผัสขรุขระคล้ายกับพื้นกรวดตามธรรมชาติ จึงทำให้เป็นกระเบื้องที่มีโอกาสจะลื่นล้มได้ยาก แต่กระเบื้องกรวดก็มีข้อเสียตรงที่ การทำความสะอาดที่ค่อนข้างจะทำความสะอาดยาก เนื่องจากพื้นผิวที่ขรุขระอาจจะทำให้มีคราบสกปรกฝังอยู่ตามซอกเล็ก ๆ ได้ง่าย และข้อเสียอีกอย่างของกระเบื้องกรวดคือ หากเกิดการลื่นล้มจริง ๆ อาจจะทำให้มีอาการบาดเจ็บมากกว่ากระเบื้องปูพื้นแบบอื่น เพราะด้วยพื้นผิวที่มีความหยาบ และขรุขระค่อนข้างมากนั่นเอง

ทำไมต้องเลือกกระเบื้องปูพื้นกันลื่นของ Adecor?

Adecor เป็นศูนย์รวมกระเบื้องมากมาย ที่ได้มาตรฐาน มีกระเบื้องให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ รวมไปถึงกระเบื้องปูพื้นไม่ลื่นเราก็มีให้ท่านได้เลือกสรรค์ มีค่า r ให้เลือกตั้งแต่ r9 ไปจนถึง r12 เลยทีเดียว เราพร้อมให้คำแนะนำทุกท่านที่สนใจ

สนใจดูผลิตภัณฑ์กระเบื้องอื่นๆ ของ Adecor ทำอย่างไร?

สำหรับท่านใดที่สนใจกระเบื้องปูพื้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้องลายหินอ่อน กระเบื้องแกรนิตโต้ กระเบื้องโมเสค หรือกระเบื้องประเภทต่าง ๆ ของ Adecor สามารถรับชมสินค้าได้ทางเว็บไซต์ของทาง Adecor ได้เลยครับที่ https://www.adecor.co.th/